วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Aston Martin DB9 ยังคงหรูหราแต่เพิ่มความดุดัน


Aston Martin DB9


Aston Matin เปิดเผยรายละเอียดล่าสุดของ DB9 โมเดลปี 2013 ที่ยังคงความเป็น British Luxury Sports GT ไว้อย่างครบถ้วน ส่วนความเปลี่ยนแปลงของโมเดลใหม่นี้เกิดขึ้นในรายละเอียดตัวรถ เช่น ไฟหน้าที่เปลี่ยนเป็น Bi-Xenon เพื่อการส่องสว่างที่ชัดเจน เติมความดุดันลงไปด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ที่วางต่ำ และกว้างขึ้น เพื่อรับลมไประบายความร้อนระบบเบรคคาร์บอนเซรามิคได้มากขึ้น เพิ่มมิติความกว้างของตัวรถขึ้นอีกสเต็ปด้วยการติดตั้ง Splitter ด้านล่างใต้กันชนหน้า ซึ่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของชุดพาร์ท Carbon Pack โดยนอกจาก Splitter ด้านหน้าแล้ว ยังมี Diffuser หลัง, ครอบกระจกมองข้างคาร์บอน และท่อไอเสียโทนสีดำ ส่วนภายในห้องโดยสารก็จะประกอบด้วยแผงคอนโซลต่างๆ แป้นเปลี่ยนเกียร์ และมือจับเปิดประตู

ขยับเข้ามามองใกล้ๆ ในมุมมองด้านหน้าจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดูดุดันขึ้นด้วยชุดกันชนหน้าแบบใหม่ กับชิ้นงานการดีไซน์กระจังหน้านั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Hyper Car พันธ์หายากอย่าง One-77 เช่นในส่วนการวางลวดลายของกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าแบบเจาะช่องระบายอากาศ แก้มหน้าเจาะช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ที่ติดตั้งชุดไฟ LED มาให้ในตัว ส่วนด้านหลังจะสังเกตเห็นถึงความกว้าง และมัดกล้ามที่เพิ่มขึ้นเพื่อสื่อสารถึงพละกำลังที่จะส่งผ่านไปยังล้อหลัง ซึ่งในส่วนของล้ออัลลอยด์นี้ไปเปลี่ยนไปใช้ชุดใหม่ขนาด 20 นิ้ว ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน

Aston Martin DB9


Aston Martin DB9

ภายในเรียบร้อย และหรูหราตามสไตล์ Aston Martin อัดแน่นไปด้วยการตกแต่งจากวัสดุหนังคุณภาพสูงเฉกเช่นเดียวกับรุ่น Virage ผลิตและทำขึ้นด้วยคุณภาพงานฝีมือล้วนๆ สวิทช์ควบคุมภายในห้องโดยสารงดงามโดยเฉพาะสวิทช์เกียร์ที่ทำมาจากแก้วเจียระไนจนมีลักษณะคล้ายเพชร มีออพชั่นให้ลูกค้าเลือกจ่ายเพิ่มเป็นเบาะนั่งสปอร์ตน้ำหนักเบา Aston Martin’s Lightweight Seats ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และเคฟล่าห์ ซึ่งเบาะนั่งทั้ง 2 ตัวจะมีน้ำหนักเพียง 17 กก. ทั้งยังออกแบบให้รองรับหลัง และไหล่ ช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น โดยไม่เสียทัศนวิสัยและอารมณ์ในการควบคุมสไตล์สปอร์ต ทางด้านพละกำลังนั้นมากับเครื่องยนต์ทรงพลังเจนเนอเรชั่นล่าสุด แบบ V12 ให้กำลังสูงสุดที่ 517 PS พร้อมแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ผลพวงจากการปรับปรุงเสื้อสูบ, ฝาสูบ, ระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual Variable Valve Timing ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น อัพเกรดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ และท้ายสุดคือการจัดการกับท่อร่วมทางเดินไอดี และห้องเผาไหม้ซะใหม่

Aston Martin DB9


ระบบเบรกของ Aston Martin DB9 ใช้แบรนด์ Brembo เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเลือกใช้แบบ CCM – Carbon Ceramic Matrix ทั้งในส่วนของดิสก์เบรก และคาลิปเปอร์เบรก ขนาดจานหน้า 398 มม. ด้านหลัง 360 มม. พร้อมระบบ ADS – Adaptive Damping System ที่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 สไตล์คือ Normal, Sport และ Track โดยในโหมด Normal ชุดโช๊คอัพอิเล็คทรอนิกส์จะปรับเซ็ทให้นุ่มนวลขับขี่สะดวกสบายโดยอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันเมื่อเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ชุดโช๊คอัพจะปรับหนืดมากขึ้น ระบบพวงมาลัยปรับให้ควบคุมได้อย่างเฉียบคมขึ้น สุดท้ายคือโหมด Track มีไว้สำหรับจัดหนักในสนามแข่งเพื่อความสะใจ