วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Mercedes E63 AMG Saloon and Estate โมเดลเวอร์ชั่นล่าสุดของ E-Class


Mercedes E63 AMG Saloon and Estate


Mercedes E63 AMG Saloon and Estate ใช้พื้นฐานของโมเดล E-Class เวอร์ชั่นล่าสุดทั้งแบบ Saloon และ Estate มาจัดหนักเป็นรุ่น E63 AMG ที่เปิดตัวด้วยรุ่นพื้นฐาน และรุ่น Top Range S-Model ซึ่งรายละเอียดการตกแต่งภายนอกของรุ่น S-Model นั้นจะประกอบไปด้วย กันชนหน้าที่มากับช่องดักอากาศขนาดใหญ่สีดำ High-Gloss Black เป็นลักษณะ A-Wing เสริม Spiltter ด้านหน้าด้วยสีเงินโครเมี่ยม ส่วนด้านหลังเพิ่มความเฉียบคมทรงพลังด้วยกันชนท้ายแบบที่มี Diffuser ในตัว รับกับท่อไอเสียโครเมี่ยมทรงเหลี่ยมคู่ AMG Sports Exhaust System ซ้าย-ขวา จะติดตั้งสปอยเลอร์ AMG สีเดียวกับตัวรถมาให้ในบอดี้ Saloon พร้อมโลโก้ AMG และโลโก้ “S” สีดำ


Mercedes E63 AMG Saloon and Estate


ส่วนภายในของรุ่น S-Model เน้นโทนสีเทา ปูพรมอารยธรรม AMG ไว้โดยรอบ เช่นการปักโลโก้บนเบาะนั่งสปอร์ต และหัวหมอน รวมถึงแผงกาบบันได พนักวางแขน บนคอนโซลกลาง ส่วนเข็มขัดนิรภัยจะเป็นสีเงิน และแผง On Board เน้นความเคร่งขรึมด้วยโทนสีดำ รับกับพวงมาลัย AMG Performance Steering หุ้มด้วยหนังสีดำ Black Nappa ซึ่งบริเวณที่มือสัมผัสจะหุ้มด้วยหนัง Alcantara ส่วนมาตรวัดมากับดีไซน์ใหม่ที่มีโลโก้ “S AMG” แสดงความเร็วได้ถึง 320 กม./ชม. และแสดง Applications ต่างๆ ด้วยตัวหนังสือสีแดง ในขณะที่รุ่นมาตรฐานนั้นจะมากับออพชั่นเบาๆ อย่างกาบบันได AMG พร้อมไฟ LED สีขาว, ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านหลังสำหรับรุ่น Saloon และสุดท้ายคือระบบป้องกันการโจรกรรม

Mercedes E63 AMG Saloon and Estate


สำหรับขุมพลังนั้นแม้จะยังใช้ขุมพลัง 5.5 ลิตร V8 Biturbo แต่ทางสำนัก AMG ก็ได้เซ็ทอัพขึ้นใหม่ ในรุ่นมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเค้นกำลังได้ถึง 557 แรงม้า พร้อมแรงบิด 720 นิวตันเมตร และประหยัดขึ้นด้วยตัวเลข 9.8 ลิตร/100 กม. สะอาดขึ้นด้วยการปล่อยค่า CO2 เพียง 230 กรัม ส่วนรุ่น Top Range S-Model นั้นมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC All-Wheel Drive มีไว้ตอบสนองความสะใจอีกระดับกับพละกำลังถึง 585 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 800 นิวตันเมตร พร้อมความสามารถในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงราว 10.3-10.5 ลิตร /100 กม. กับค่า CO2 ที่ปล่อยเพียง 242 – 246 กรัม

Mercedes E63 AMG Saloon and Estate


ทางด้านระบบส่งกำลังนั้นเป็นเกียร์ AMG Speedshift MCT 7 สปีด มาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ คือ “C” (Controlled Efficiency) ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเซ็ทอัพได้ตามความชอบเอง และต่อเนื่องกันด้วยโหมด “S” (Sport), “S+” (Sport plus) and “M” (Manual) เพิ่มเทคโนโลยี ECO Start/Stop มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับระบบ Race Start เพื่อเพิ่มความเร้าใจขณะขับขี่ขึ้นอีกระดับ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ของรุ่น S-Model ได้มีการเซ็ทอัพอัตราส่วนการกระจายแรงบิดหน้า/หลัง เท่ากับ 33/67 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ได้อรรถรสของการขับเคลื่อนล้อหลังในสไตล์ AMG พร้อมด้วยการอัพเกรดระบบควบคุมเสถียรภาพ 3 ระดับ The 3-stage ESP® รวมถึงระบบเบรกที่สามารถกระจายแรงเบรกได้ตามสภาวะการขับขี่เพื่อให้มีเสถียรภาพสูงสุด อีกทั้งในรุ่น S-Model ยังได้ติดตั้งระบบล็อคเฟืองท้าย Differential Lock มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อกลายเป็นยนตรกรรมที่สามารถสนุกสนานได้ทั้งบนถนน และในสนาม

Mercedes E63 AMG Saloon and Estate


ชุดช่วงล่าง AMG Ride Control มากับระบบบ AMG DRIVE UNIT สามารถปรับความแข็ง-อ่อนของ Damper และโช๊คอัพได้ด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับเลือกโหมดการขับขี่ทั้ง 3 แบบ คือ “Comfort”, “Sport” และ “Sport” เสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรกสมรรถนะสูงจาก AMG โดยรุ่นมาตรฐานจะใช้ขนาดจานด้านหน้า และหลัง 360 มม. จับคู่กับคาลิปเปอร์สีเงินด้านหน้า 6 Pot หลัง 4 Pot ส่วนรุ่นพิเศษ S-Model เพิ่มอำนาจจการหยุดยั้งด้วยชุดเบรก “AMG Carbon Ceramic” จับคู่กับคาลิปเปอร์สีแดง และจานเบรกขนาด 402 มม. ส่วนล้อที่ใช้ในรุ่นมาตรฐานจะมากับลาย 10 ก้าน สีเทา Titanium Grey พร้อมยางซีรี่ส์ 255/40 R 18 หน้ากว้าง 9.0 นิ้วในด้านหน้า และด้านหลังซี่รี่ส์ 285/35 R18 หน้ากว้าง 9.5 นิ้ว ส่วนรุ่น S-Model ขับเคลื่อน 4 ล้อขยายล้อขึ้นเป็น 19 นิ้ว ลาย 10 ก้าน สีเทา Titanium Grey เหมือนกัน แต่มาพร้อมยางซีรี่ส์ 255/35 R 19 กว้าง 9.0 นิ้วด้านหน้า และซีรี่ส์ 285/30 R 19 กว้าง 9.5 นิ้วในด้านหลังเช่นกัน ซึ่งจะเพิ่มความสนุกในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น กับ Mercedes E63 AMG Saloon and Estate